ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว อยู่ได้นานแค่ไหน? ฟอกสีฟันอยู่ได้นานไหม การฟอกสีฟัน แบบ cool light LED ต่างกันอย่างไร

ฟอกฟันขาว คืออะไร

ฟอกฟันขาว เป็นการรักษาที่ช่วยให้ฟันที่มีสีคล้ำ สีเหลือง กลับมามีสีขาวขึ้นโดยใช้น้ำยาฟอกสีฟัน เช่น hydrogen peroxide หรือ carbamide peroxide หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งในคลินิกหรือที่บ้าน (home bleaching) โดยเฉพาะใน dental clinic ที่ได้มาตรฐานจะใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัย เช่น cool light LED หรือ zoom ที่ใช้พลังงานแสงสีฟ้าชนิดเข้มข้น

การฟอกสีฟันคืออะไร

การฟอกสีฟันคือกระบวนการปรับเฉดสีของผิวฟันให้ขาวขึ้น โดยไม่ทำลายโครงสร้างฟันเดิม เป็นการเสริมสร้างบุคลิกความมั่นใจและภาพลักษณ์ โดยเฉพาะในกลุ่มคนเมืองและนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจภาพลักษณ์ ระดับความขาวของฟัน โดยทั่วไปจะขาวขึ้นประมาณ 3-5 เฉด ซึ่งจะขาวขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละบุคคลด้วย

ฟอกสีฟันมีกี่แบบ

1. ฟอกสีฟันในคลินิก (In-office bleaching)
เป็นการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่คลินิก จะใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง เห็นผลทันทีหลังทำ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง

2. ฟอกสีฟันที่บ้าน (Home bleaching)
การฟอกสีฟันที่สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยการทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล รับน้ำยาฟอกสีฟันและคำแนะนำในการใช้ ข้อดีคือสะดวกสบาย แต่ผลลัพธ์ช้ากว่าและควบคุมยากกว่า

ฟอกสีฟันแบบ cool light LED ต่างจากแบบอื่นอย่างไร

การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น คือการใช้แสงเย็น (cool light) จาก LED หรือ zoom เป็นการใช้พลังงานแสงสีฟ้าชนิดเข้มข้น ทำให้สารฟอกสีฟันทำงานได้รวดเร็วและลึกขึ้น โดยไม่ทำให้ร้อนหรือทำลาย enamel และเห็นผลทันทีหลังทำ ซึ่งจะสามารถรักษาสีฟันให้ขาวได้ยาวนานยิ่งขึ้น

การฟอกสีฟันควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

ขั้นตอนการฟอกสีฟันในคลินิก

1. ตรวจเช็กสุขภาพช่องปากโดยผู้ดูแลช่องปากมืออาชีพ
2. ทำความสะอาดฟันก่อนเริ่มการฟอก
3. ทาเจลฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูง
4. ฉายแสง cool light LED นาน 15–20 นาทีต่อรอบ (รวมประมาณ 1 ชั่วโมง)
5. ประเมินผลและให้คำแนะนำดูแลหลังทำ

ฟอกสีฟันอยู่ได้นานไหม? อยู่ได้นานแค่ไหนหลังฟอกฟันขาว

โดยทั่วไปผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำ เช่น แปรงฟัน ตรวจฟัน และหลีกเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เช่น กาแฟ น้ำอัดลม ชา หรือไวน์ และบุหรี่ บางรายผลลัพธ์อาจอยู่ได้เพียง 6 เดือน-1 ปี ขึ้นอยู่กับระดับสีที่เป็นอยู่ของฟัน และการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล

อยากให้ฟันขาวนานยิ่งขึ้น ทำอย่างไร

• หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มสีเข้มใน 48 ชั่วโมงแรก เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
• แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และใช้ไหมขัดฟัน
• ตรวจฟันและทำความสะอาดทุก 6 เดือน
• ใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรไม่มีสี
• งดสูบบุหรี่หากเป็นไปได้
• การดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การเลือกรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม เป็นต้น

ทำไมต้องเลือก The Smile Bar Bangkok

• ใช้เทคโนโลยี cool light LED อ่อนโยนต่อ enamel แต่ให้ผลลัพธ์ฟันขาวชัดเจน
• มี certified hygienists ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
• มีรีวิว 5 ดาวกว่า 500 รีวิวจากลูกค้าทั่วโลก
• ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก
• บรรยากาศตกแต่งภายในสไตล์สแกนดิเนเวียน สะอาด โปร่ง สบาย
• โปร่งใสเรื่องราคา และสามารถจองออนไลน์ได้ง่าย

ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ที่ dental clinic ในกรุงเทพดีกว่าอย่างไร

การฟอกสีฟันในคลินิกนั้นให้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัย เห็นผลเร็ว และอยู่ได้นานกว่า home bleaching เพราะควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญ และใช้เทคโนโลยีที่ผ่านการรับรอง มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสูง การจะเลือกฟอกสีฟัน ควรรู้อะไรบ้าง เช่น ราคาเท่าไหร่ หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ

ปลอดภัยหรือไม่? ฟอกสีฟันแล้วมีผลข้างเคียงไหม

การฟอกสีฟันที่ The Smile Bar ปลอดภัย 100% หากมีควบคุมจาก hygienist มืออาชีพ และใช้เจลที่มีสูตรอ่อนโยนต่อ enamel อาจมีอาการเสียวฟันเล็กน้อยในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก ซึ่งสามารถดูแลได้ง่าย และจะหายไปเอง แต่ขณะที่ฟอกสีฟันหรือหลังจากฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และควรหลีกเลี่ยงการฟอกสีฟันหากมีฟันร้าว หรืออาการอื่นร่วมด้วย

อุดฟัน ฟันปลอม หรือจัดฟันอยู่สามารถฟอกสีฟันได้ไหม

สามารถทำได้ในหลายกรณี แต่ควรได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะวัสดุบางชนิด เช่น เรซิน หรือวัสดุครอบฟัน อาจไม่เปลี่ยนสีพร้อมกับฟันธรรมชาติ การวางแผนร่วมกับการอุดฟันหรือทำครอบฟันจึงควรทำอย่างมีลำดับ ถ้าหากจัดฟันอยู่ ควรรอให้จัดฟันเสร็จเสียก่อน

Whitening แบบไหนเหมาะกับคุณ

หากคุณต้องการฟันขาวในทันที และอยู่ในกรุงเทพฯ กำลังมองหาคลินิกที่บริการแบบพรีเมียม การเลือกฟอกฟันขาวแบบ LED ที่ The Smile Bar คือคำตอบที่ใช่ ทั้งในแง่ของผลลัพธ์ ความปลอดภัย และประสบการณ์ที่คุณจะประทับใจ การฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาว แบบ cool light led หรือ zoom เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ทำให้ฟันดูขาวกระจ่างขึ้น และไม่ทำให้ enamel หรือเคลือบฟันมีสีเข้มขึ้น

ไม่ว่าจะเลือกการฟอกฟันขาวแบบไหน สิ่งสำคัญคือควรเลือกใช้บริการคลินิกหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน

คำถามที่พบบ่อย

ฟอกสีฟันควรทำปีละกี่ครั้ง?

• โดยทั่วไปแนะนำให้ฟอกสีฟันไม่เกิน 1–2 ครั้งต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระดับสีฟันเดิมและพฤติกรรมส่วนตัว เช่น การดื่มชา กาแฟ หรือสูบบุหรี่ รวมถึงการดูแลรักษาฟันในแต่ละวัน

ฟอกสีฟันแล้วจะกลับมาเหลืองอีกไหม?

• อาจกลับมาเหลืองได้หากไม่ได้ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมอ หรือบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มบ่อยๆ แต่สามารถชะลอการเปลี่ยนสีได้ด้วยการแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร และใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรไม่มีสี

ฟอกสีฟันมีข้อเสียไหม?

• ในบางกรณีอาจมีอาการเสียวฟันชั่วคราวหลังทำ โดยเฉพาะในช่วง 24–48 ชั่วโมงแรก แต่โดยรวมแล้วปลอดภัย หากทำโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้อุปกรณ์มาตรฐานในคลินิกที่เชื่อถือได้

ฟอกสีฟันเหมาะกับใคร?

• เหมาะกับผู้ที่มีฟันคล้ำหรือสีไม่สม่ำเสมอ เช่น จากการดื่มชา กาแฟ หรือการสูบบุหรี่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ใส่ใจภาพลักษณ์และต้องการเสริมความมั่นใจในรอยยิ้ม

การฟอกสีฟันที่บ้านหรือที่คลินิก ต่างกันอย่างไร?

• การฟอกฟันที่คลินิกจะเห็นผลทันทีและควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญ ส่วนการทำที่บ้านแม้สะดวกกว่าแต่เห็นผลช้ากว่า และต้องใช้อย่างต่อเนื่องภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์

ฟอกสีฟันแล้วเจ็บไหม?

• โดยทั่วไปไม่เจ็บ อาจมีอาการเสียวฟันเพียงเล็กน้อยหลังทำ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาสีฟันสำหรับฟันบอบบาง เสียวฟันง่าย และหลีกเลี่ยงอาหารร้อนหรือเย็นจัด

ฟอกฟันขาวใช้เวลานานไหม?

• การฟอกฟันในคลินิกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง และเห็นผลทันที ส่วนการฟอกฟันที่บ้านอาจใช้เวลาหลายวันถึงสัปดาห์กว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง

ใครบ้างที่ไม่ควรฟอกสีฟัน?

• ผู้ที่มีฟันร้าว ฟันผุรุนแรง หรือเหงือกอักเสบควรหลีกเลี่ยงการฟอกสีฟันจนกว่าจะรักษาปัญหาเหล่านั้นก่อน และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนเริ่มกระบวนการ