คู่มือแนะนำเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำยาบ้วนปาก วิธีใช้และการลดความเสี่ยง

May 7, 2020

น้ำยาบ้วนปากเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการดูแลสุขภาพช่องปากของคุณเนื่องจากสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายรวมถึงช่วยเรื่องกลิ่นปากได้ อย่างไรก็ตามยังมีความเข้าใจผิดอยู่มากเกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปาก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะจัดทำคู่มือที่บอกถึงประโยชน์และวิธีใช้อย่างถูกต้องขึ้นมา

ในเมื่อไม่มีอะไรเพิ่มเติมแล้ว ดังนั้นเราขออธิบายทุกๆอย่างเกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปากด้วยคู่มือแนะนำสุดพิเศษซึ่งจัดทำขึ้นโดย The Smile Bar

น้ำยาบ้วนปากมีความพิเศษอย่างไร

น้ำยาบ้วนปากมีส่วนผสมร่วมที่สามารถฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ได้ ดังต่อไปนี้

  • เซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ (CPC)
  • คลอรีนไดออกไซด์ (ClO2)
  • น้ำมันหอมระเหย (เช่น เมนทอล เมทิลซาลิไซเลต และยูคาลิปทอล)

ที่ The Smile Bar เราแนะนำให้คุณเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เพราะเป็นส่วนผสมที่อาจทำให้ปากแห้งซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก

ขณะที่คุณใช้น้ำยาบ้วนปากโดยการกลั้วให้ทั่วในช่องปากนั้น ส่วนผสมต่างๆจะออกฤทธ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ทำให้ปากของคุณสะอาดและมีลมหายใจสดชื่น

แม้ว่าผลของการใช้น้ำยาบ้วนปากอาจดูเหลือเชื่อแต่เราไม่สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากทดแทนการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันได้โดยน้ำยาบ้วนปากเป็นเพียงตัวช่วยเสริมตามคุณสมบัติที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นดังนั้นเราจึงควรใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างเป็นประจำ

ประโยชน์ของน้ำยาบ้วนปากมีอะไรบ้าง

เราขอยกตัวอย่างประโยชน์ของส่วนผสมในทางวิทยาศาสตร์ให้คุณสามารถเข้าใจได้ง่ายดังนี้

  • การฆ่าเชื้อแบคทีเรียทอันตรายซึ่งอยู่ตามลิ้นและซอกฟันโดยที่การแปรงฟันหรือการใช้ไหมขัดฟันไม่สามารถเข้าถึงได้
  • การกำจัดเศษอาหารและคราบหินปูนซึ่งช่วยป้องกันการสะสมของชั้นจุลินทรีย์ (biofilm)
  • การช่วยเรื่องกลิ่นปากให้ดีขึ้น
  • ช่วยป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบ

อย่างที่เห็นแล้วว่าน้ำยาบ้วนปากส่งเสริมให้มีลมหายใจที่สดชื่นและมีช่องปากที่สุขภาพดีได้ดี  อย่างไรก็ตามเราต้องการสนับสนุนข้อเท็จจริงดังกล่าวให้เห็นว่าน้ำยาบ้วนปากนั้นมีประสิทธิภาพจริง

  1. น้ำยาบ้วนปากมีสารออกฤทธิ์ เช่น น้ำมันหอมระเหยร่วมกับคลอเฮกซิดีน (chlorhexidine) ที่สามารถป้องกันการเกิดโรคเหงือกอักเสบ และควบคุมปริมาณของคราบหินปูนได้: จากผลการศึกษา
  2. กลุ่มเด็กผู้หญิงจากโรงเรียนมัธยมเตหะรานที่ได้ใช้น้ำยาบ้วนปากซึ่งมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มิ้ได้ให้ข้อพิสูจน์ว่าสามารถลดกลิ่นปากได้: จากผลการศึกษา

อย่างที่คุณได้เห็นว่าทั้งในทางวิทยาศาสตร์และจากตัวอย่างการใช้ในชีวิตจริงต่างเป็นข้อสนับสนุนประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปาก ในตอนนี้เรามาให้ข้อมูลถึงวิธีการใช้น้ำยาบ้วนปาก

การใช้น้ำยาบ้วนปากให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นอย่างไร

ตอนนี้คุณได้มองเห็นถึงประโยชน์อันยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปากโดยมีข้อสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์แล้ว เมื่อถึงตอนนี้คุณต้องรู้วิธีการใช้งานให้มีประสิทธิภาพเราาจึงได้จัดทำส่วนนี้ไว้ในรูปแบบของคำถามและคำตอบเพื่อให้สะดวกต่อการทำความเข้าใจ

น้ำยาบ้วนปากทำงานอย่างไร”ฝ

ก่อนเข้าเรื่องวิธีการใช้เราอยากอธิบายอย่างง่ายๆถึงการทำงาน น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆและน้ำมันหอมระเหยซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย การกำจัดคราบหินปูน ชั้นกลุ่มแบคทีเรียและจุลินทรีย์สะสมอีกทั้งเศษอาหารได้

นอกจากนี้น้ำยาบ้วนปากบางชนิดก็ยังมีผลในการฟอกสีฟันแต่ก็มีข้อจำกัดให้เห็นผลลัพธ์ได้ยาก หากว่าคุณต้องการทำให้ฟันของคุณขาวขึ้นจริงคุณจำเป็นต้องได้รับการดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเช่นเดียวกับเรา

เราควรแปรงฟันก่อนหรือไม่

แน่นอนว่าคุณจะต้องแปรงฟันก่อนใช้น้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟันส่วนมากมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ซึ่งเราควรรอสักพักหลังแปรงก่อนการใช้ เพราะน้ำยาบ้วนปากสามารถชำระล้างฟลูออไรด์ไปจากผิวฟันของคุณ แต่น้ำยาบ้วนปากสูตรของเราไม่สามารถล้างออกได้

คุณสามารถอ่านข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมของ น้ำยาบ้วนปาก ไวท์เทนนิ่ง อีโว

คุณยังสามารถใช้น้ำยาบ้วนปากของเราได้ก่อนการแปรงฟันโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆขณะเพลิดเพลินไปกับประโยชน์มากมายของน้ำยาบ้วนปากมาก คุณก็ยังสามารถฟอกสีฟันของคุณให้ขาวขึ้นได้ด้วยในเวลาเดียวกัน

เราควรใช้น้ำยาบ้วนปากในปริมาณเท่าใด

ปริมาณการใช้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์ของน้ำยาบ้วนปากที่คุณจะใช้โดยปกติควรใช้เพียง 3 ช้อนชาเป็นอย่างน้อยหรือไม่เกิน 5-6 ช้อนชาซึ่งขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยาบ้วนปากและสารออกฤทธิ์ในส่วนผสม

เราควรจะใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างไร

การใช้น้ำยาบ้วนปากทำได้ง่าย ๆ เพียงคุณปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

  1. เทน้ำยาบ้วนปากที่เต็มแก้วเข้าไปในปาก
  2. กลั้วน้ำยาบ้วนปากในปากให้ทั่วประมาณ 30-60 วินาที
  3. บ้วนน้ำยาบ้วนปากทิ้ง

การใช้น้ำยาบ้วนปากใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นแต่เป็นการแลกกับประโยชน์ทั้งหมดที่คุ้มค่าจากการลงทุนเพียงเล็กน้อย

เราควรจะใช้น้ำยาบ้วนเมื่อไร

ดังขู้อมูลข้างต้นคุณจะต้องแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันก่อนการใช้น้ำยาบ้วนปาก อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้น้ำยาบ้วนปากหลังการรับประทานอาหารทุกมื้อหรือเมื่อต้องการกำจัดกลิ่นปากในทันที

ฉะนั้นแล้วคุณควรใช้น้ำยาบ้วนปากอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าทุกท่านควรใช้อย่างเป็นประจำเพื่อให้ช่องปากและฟันได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด ดังนั้นการใช้น้ำยาบ้วนปากจึงเป็นส่วนหนึ่งของสุขอนามัยในช่องปากในชีวิตประจำวันของคุณ

น้ำยาบ้วนปากปลอดภัยหรือไม่

น้ำยาบ้วนปากนั้นปลอดภัยตราบใดไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่ทำให้ปากแห้งและทำให้เกิดกลิ่นปาก อย่างไรก็ตามน้ำยาบ้วนปากยังมีความเสี่ยงบางอย่างต้องระวังนั่นโดยเราจะอธิบายในส่วนถัดไป

คำเตือน

ประสิทธิภาพอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ สิ่งนี้หน้าคือของเราที่ต้องแจ้งให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ของการใช้น้ำยาบ้วนปาก อย่างไรก็ตามหากคุณปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว คุณก็จะสามารถลดความเสี่ยงให้น้อยลงได้

เด็กมีความเสี่ยงจากน้ำยาบ้วนปากหรือไม่

เราไม่แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และในน้ำยาบ้วนปากเองมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในปริมาณสูงซึ่งส่งผลอันตรายหากกลืนเข้าไปในร่างกายได้โดยเฉพาะกับเด็ก

ดังนั้นเด็กอายุต่ำกว่า 7 ปีไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากและเมื่อเด็กมีอายุเกินแล้วยังควรใช้ภายใต้การควบคุมดูแลเท่านั้น

การเกิดแผลในช่องปาก

แม้ว่าน้ำยาบ้วนปากจะสามารถช่วยรักษาแผลในช่องปากได้ แต่ยังเป็นสิ่งที่บดบังสาเหตุอะนแท้จริงของอาการกำเริบของแผลในช่องปาก ซึ่งผลลัพธ์ในทางตรงกันข้ามนี้เกิดจากการใช้น้ำยาบ้วนปากต่อกันเกินจำเป็น

ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากในการรักษาแผลในช่องปากเพราะคุณอาจเกิดการเจ็บปวดจากการใช้ได้ ทุกท่านโปรดปรึกษาทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดแผลในช่องปากและอาการเจ็บในช่องปากของคุณ

บทความแนะนำ

ขาวขึ้นจาก2 ถึง9เฉด ใช้เวลาเริ่มต้นเพียง 20 นาที

คุณพร้อมรับรอยยิ้มที่สดใสหรือยัง?